Kubernetes (K8s) ระบบจัดการ Container สุดเจ๋ง
Kubernetes หรือ K8s คือระบบจัดการคอนเทนเนอร์ (Container Orchestration) แบบโอเพนซอร์ส (Open-Source) ที่ช่วยให้การปรับใช้ การปรับขนาด และการจัดการแอปพลิเคชันที่ทำงานบนคอนเทนเนอร์เป็นไปโดยอัตโนมัติ
หลักการทำงานของ Kubernetes
Kubernetes ทำงานโดยการสร้างคลัสเตอร์ (Cluster) ของเครื่องคอมพิวเตอร์ (Node) ที่ทำงานร่วมกัน โดยคลัสเตอร์จะประกอบด้วย:
- Master Node:
- เป็นศูนย์กลางควบคุมคลัสเตอร์ ทำหน้าที่จัดการและสั่งการ Node อื่นๆ
- ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ เช่น API Server, Scheduler, Controller Manager และ etcd (ฐานข้อมูลเก็บข้อมูลคลัสเตอร์)
- Worker Node:
- เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้รันคอนเทนเนอร์
- ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ เช่น Kubelet (ตัวแทนควบคุม Node) และ Kube Proxy (จัดการเครือข่าย)
Kubernetes ทำงานโดยการรับคำสั่งจากผู้ใช้ผ่าน API Server จากนั้น Scheduler จะทำการจัดสรรคอนเทนเนอร์ไปยัง Worker Node ที่เหมาะสม Controller Manager จะตรวจสอบสถานะของคลัสเตอร์และดำเนินการตามที่กำหนด เพื่อให้คลัสเตอร์อยู่ในสถานะที่ต้องการ
เหมาะสมกับงานลักษณะไหน
Kubernetes เหมาะสมกับงานลักษณะต่อไปนี้:
- แอปพลิเคชันแบบ Microservices:
- Kubernetes ช่วยให้การจัดการแอปพลิเคชันที่แบ่งออกเป็นส่วนเล็กๆ (Microservices) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- แอปพลิเคชันที่ต้องการความพร้อมใช้งานสูง:
- Kubernetes มีระบบจัดการความผิดพลาด (Fault Tolerance) ที่ช่วยให้แอปพลิเคชันทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมี Node บางตัวล้มเหลว
- แอปพลิเคชันที่ต้องการปรับขนาดได้ง่าย:
- Kubernetes ช่วยให้การเพิ่มหรือลดจำนวนคอนเทนเนอร์เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ตามปริมาณการใช้งาน
- แอปพลิเคชันที่ต้องการการปรับใช้ (Deployment) ที่รวดเร็ว:
- Kubernetes ช่วยให้การปรับใช้แอปพลิเคชันใหม่ๆ หรือการอัปเดตแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ข้อกำหนดของระบบ Kubernetes นั้นขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของคลัสเตอร์ที่คุณต้องการสร้าง แต่โดยทั่วไปแล้ว นี่คือข้อกำหนดพื้นฐานที่ควรพิจารณา:
1. ระบบปฏิบัติการ (Operating System):
- Kubernetes สามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการ Linux, macOS และ Windows ได้ แต่ Linux เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการใช้งาน Kubernetes ในสภาพแวดล้อมการผลิต
- ระบบปฏิบัติการที่รองรับ เช่น Ubuntu, CentOS, RHEL, Debian
2. ฮาร์ดแวร์ (Hardware):
- Master Node:
- CPU: 2 cores ขึ้นไป
- RAM: 2 GB ขึ้นไป
- พื้นที่เก็บข้อมูล: 20 GB ขึ้นไป
- Worker Node:
- CPU: 1 core ขึ้นไป (แนะนำ 2 cores ขึ้นไป)
- RAM: 1 GB ขึ้นไป (แนะนำ 2 GB ขึ้นไป)
- พื้นที่เก็บข้อมูล: ขึ้นอยู่กับขนาดของคอนเทนเนอร์และข้อมูลที่จัดเก็บ
3. เครือข่าย (Network):
- การเชื่อมต่อเครือข่ายที่เสถียรระหว่าง Master Node และ Worker Nodes
- การตั้งค่าเครือข่ายที่อนุญาตให้คอนเทนเนอร์สื่อสารกันได้
4. Container Runtime:
- Kubernetes ต้องการ Container Runtime เพื่อรันคอนเทนเนอร์ เช่น Docker, containerd หรือ CRI-O
5. เครื่องมือเพิ่มเติม:
- kubectl: เครื่องมือ command-line สำหรับจัดการคลัสเตอร์ Kubernetes
- etcd: ฐานข้อมูลแบบกระจายสำหรับเก็บข้อมูลคลัสเตอร์
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:
- ข้อกำหนดของระบบอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของ Kubernetes ที่คุณใช้
- สำหรับสภาพแวดล้อมการผลิต ควรมีทรัพยากรฮาร์ดแวร์ที่เพียงพอเพื่อให้คลัสเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ควรมีการวางแผนเครือข่ายอย่างรอบคอบเพื่อให้คลัสเตอร์ทำงานได้อย่างราบรื่น
โดยทั่วไปแล้ว Kubernetes มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้ แต่การวางแผนและเตรียมระบบให้พร้อมจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Kubernetes
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Kubernetes (K8s) จึงเป็นระบบจัดการ Container สุดเจ๋ง
บทความที่เกี่ยวข้อง